พุทธบัญญัติจากพระไตรปิฎก พระวินัย ๒๒๗ ข้อ
พุทธบัญญัติจากพระไตรปิฎก พระวินัย ๒๒๗ ข้อ
บันทึกการเรียบเรียง
สิกขาบทที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำให้สมาชิกสงฆ์มีความประพฤติเหมือนกัน มีสังวาสเดียวกัน ไม่เป็นนานาสังวาส สมาชิกของภิกขุสังฆะจึงเสมอกันด้วยศีล (สีลสามัญญุตา) ไม่เกิดความรังเกียจกันในด้านความประพฤติ ก่อให้เกิดความรักความสามัคคี
ความเข้าอกเข้าใจกัน ระหว่างภิกษุนวกะ ภิกษุมัชฌิมะ และภิกษุเถระ เมื่อสิกขาบทยังได้รับการศึกษาและปฏิบัติตาม ก็หวังได้ว่าความประพฤติของสมาชิกสงฆ์จะไม่แตกต่างกับสมาชิกสงฆ์ในอดีตและอนาคต
พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า พระสัทธรรม (ธรรมที่แท้) มี ๓ คือ
๑. ปริยัตติสัทธรรม (สัทธรรมคำสอนที่จะต้องเล่าเรียน) ได้แก่ พุทธพจน์
๒.ปฏิปัตติสัทธรรม ได้แก่ อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ เป็นธรรมที่จะต้องปฏิบัติ
๓.ปฏิเวธสัทธรรม ได้แก่ มรรคผลและนิพพาน ธรรมที่จะพึ่งเข้าถึงด้วยการปฏิบัติ
จากนั้นท่านก็แสดงลำดับการอันตรธานว่า ปฏิเวธสัทธรรมเสื่อมก่อน เมื่อไม่มีผู้บรรลุฌานมรรค ผล นิพพาน ต่อมาปฏิปัตติสัทธรรมก็เสื่อมตาม เมื่อปฏิบัติแล้วไม่สามารถทำฌาน วิปัสสนาและมรรคผลให้เกิดขึ้นได้ เหล่าภิกษุจึงท้อถอย ทำเพียงรักษาสิกขาบท และในที่สุดก็ไม่อาจรักษา
อาบัติปาราชิกไว้ได้ ปฏิบัติก็ชื่อว่าอันตรธาน ต่อมาปริยัตติสัทธรรมก็เสื่อม โดยอภิธรรมปีฎกเสื่อมก่อน เพราะไม่มีผู้อธิบายได้ จากนั้นสุตตันตปิฎกก็เสื่อม และในที่สุดวินัยปิฎกก็เสื่อม
พระฎีกาจารย์ จึงกล่าวให้ความสำคัญกับพระวินัยว่า วินัยเป็นอายุของพุทธศาสนา
เพราะเมื่อสิ้นพระวินัย พระพุทธศาสนาก็ตาย ดังนั้น การเรียบเรียงคำสอนเรื่องพระวินัยจึงเป็นการช่วยต่ออายุให้พระพุทธศาสนา การต่ออายุจะสำเร็จไม่ได้เลย หากไม่มีคัมภีร์ด้านพระวินัยและท่านผู้แปลทั้งหลาย ทั้งส่วนที่เป็นสถาบันสงฆ์ และส่วนบุคคล ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณท่านเหล่านั้นด้วยเศียรเกล้า ทั้งกราบชอบพระคุณพระอาจารย์มหาธิติพงศ์
อุตฺตปญฺโณ ที่อนุญาตให้นำ องค์ แห่งการวินิจฉัยแต่ละสิกขาบทมาใส่ประกอบได้
(อนึ่ง ขอให้ทราบว่า การเรียบเรียงครั้งนี้เป็นงานปรับปรุง แก้ไข และเพิ่มเติม จากงานเก่าเผยแพร่เมื่อหลายปีก่อน) ขอขอบพระคุณทีมงานผู้ช่วยให้งานเรียบเรียงของข้าพเจ้าสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีอีกเล่มหนึ่งจนได้คือ คุณนาฎอนงค์ พรนภดล (ประสงค์ผล) รับหน้าที่พิมพ์ลายมือและตรวจอักษร และคุณฐิติยา พรชื่น รับจัดทำออกแบบรูปเล่ม ด้วยความอุตสาหะ ขันติและรักในพระพุทธศาสนาเช่เดียวกัน ทั้งขอชื่นชมผู้บริหารธรรมสภา และสถาบันปันลือธรรม ที่อดทนรอคอยงานนี้เป็นเวลา ๒ ปีเลยทีเดียว
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนากัลยาณมิตรของมูลนิธิธรรมสภา บันลือธรรม ㆍ ศูนย์ศึกษาพระไตรปิฎก ธรรมสภา และกองทุนดอกบัวกลางน้ำ โดยคุณรุ่งชัย วิริยะบัณฑิตกุล ที่ร่วมจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้แจกเป็นธรรมทานแก่วัดและสถานปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ.
ปัญญา ใช้บางยาง
(ผู้อำนวยการศูนย์พระไตรปิฎก ธรรมสภา)
มีนาคม ๒๕๖๖